แมงดาถ้วย (Carcinoscorpius rotundicauda)
สัตว์มีขาเป็นข้อปล้องที่อาศัยอยู่ในทะเล
ส่วนหัวเชื่อมรวมกับอกเป็นรูปเกือกม้า ส่วนท้องมีหนามบริเวณขอบข้างละ 6 คู่หางค่อนข้างกลมและไม่มีหนามอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลน
วางไข่ตามริมตลิ่งบริเวณป่าชายเลนแมงดาชนิดนี้บางตัวอาจะเป็นพิษจึงควรระมัดระวังในการรับประทานไข่แมงดาหางกลมโดยเฉพาะช่วงเดือน
ธันวาคม-มีนาคม
หอยขี้นก (Cerithidea)
หอยกาบเดี่ยวขนาดยาวประมาณ
4 เซนติเมตร เปลือกเวียนเป็นเกลียวรูปเจดีย์ พบเกาะอยู่ตามรากต้นโกงกางหรือคลานอยู่ตามพื้นป่าเมื่อหอยเหล่านี้ตายลงเปลือกจะเป็นที่อยู่อาศัยของลูกปูเสฉวนขนาดเล็ก
ปลาตีน (Boleophthalmus)
ปลาที่ปรับตัวทางโครงสร้างและสรีระหลายอย่างจนสามารถอาศัยอยู่บนบกได้เป็นเวลานานปลาหลายชนิดและขนาดแตกต่างกันหัวขนาดใหญ่
ตาโตลำตัวเรียวเล็กลงไปทางหาง ครีบอกแผ่ขยายใหญ่ใช้คลานขณะอยู่บนบกได้ดี
ปลาตีนกินกุ้ง ปูและหนอนตามหาดโคลนเป็นอาหาร
ปลากะพงตาแมว (Lutianus)
ลำตัวค่อนข้างสั้น
ตาอยู่ค่อนไปทางหัวขนาดยาวประมาณ 30 เซนติเมตร เกล็ดข้างตัวมีสีน้ำตาลอมเทา
เส้นข้างลำตัวปรากฏเด่นชัดหากินอยู่ใกล้พื้นทะเลริมชายฝั่งและลำคลองในป่าชายเลน
ปลากะรังปากแม่น้ำ (Epinephelus tauvina)
ปลากะรังหรือปลาเก๋าขนาดใหญ่
เมื่อโตเต็มที่มีความยาวถึง 80 เซนติเมตร ปากกว้าง สามารถฮุบกินเหยื่อเข้าไปทั้งตัวซึ่งได้แก่ปลาขนาดเล็กกว่า
พบอาศัยอยู่บริเวณปากแม่น้ำหรือตามลำคลองของป่าชายเลน
จัดเป็นปลาเศรษฐกิจที่สำคัญเช่นเดียวกับปลากะพงขาว
ปลาจรวด (Johnius)
ปลาขนาดยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ลำตัวแบนทางด้านข้าง เกล็ดมีสีเทาอมดำซึ่งแตกต่างจากปลาจรวดชนิดอื่นโดยทั่วไปซึ่งมักมีสีเงินอมเหลือง
พบอาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งและลำคลองในป่าชายเลน โดยหากินใกล้พื้นทะเล
นกยาง (Egretta)
นกยางเป็นนกที่มีขายาว
ปากยาวขนลำตัวส่วนใหญ่สีขาว มีอยู่หลายชนิด ที่พบเห็นได้ทั่วไปได้แก่ นกยางเปีย
นกยางทะเล นกยางโทนนกเหล่านี้มักอาศัยอยู่ตามป่าชายเลนหรือบึง ใกล้แหล่งน้ำ
กินกุ้ง ปู หอย ปลาเป็นอาหาร ทำรังอยู่บนต้นไม้ ด้วยกิ่งไม้แห้ง